Friday 19 September 2008

ช่องว่างระหว่างวัยทำงาน



หนึ่งในสาเหตุของความเครียดในที่ทำงานคือ การที่คนหลายรุ่นหลายวัยหลายความคิด
ต้องมาทำงานร่วมกัน ความแตกต่าง ระหว่างเลขวัยที่สัมพันธ์กับเลขไมล์ของ
ประสบการณ์ มักนำมาซึ่งความไม่เข้าใจกัน..จนก่อตัวเป็นความขัดแย้ง

ในที่สุด บางทีความแตกต่าง คือ กุญแจแห่งความสำเร็จ เพียงขอเปิด ใจทำความรู้จักคนแต่ละรุ่นให้ลึกซึ้งก็จะได้พบ
โลกใบใหม่ที่งดงาม หลากหลาย และหากเลือกที่จะสื่อสารได้อย่างถูก ช่องถูกกลุ่ม ก็อาจจะได้อะไรใหม่ ๆ คาดไม่ถึง

ใครเป็นใครในที่ทำงาน เราจะแบ่งรุ่นของคนทำงานในที่ทำงานให้ชัดๆ ก่อน
โดย จำแนกจากช่วงปีเกิด ซึ่งจะสัมพันธ์กับประสบการณ์ในช่วงเติบโต
ทำให้เห็นยุคสมัยที่หล่อหลอมความคิดของพวกเขาได้ชัดเจนขึ้น

กลุ่มลายคราม : คนที่เกิดก่อนปี 2498
ลายคราม...ไม่ว่าจะดำรงตำแหน่งกรรมการที่ปรึกษา หรือ เป็นพนักงานวัยใกล้เกษียณ
คนกลุ่มนี้จะมีผู้คน นับหน้าถือตามากมาย
อันเนื่องมาจากประสบการณ์การทำงานอันยาวนาน
ของพวกเขานั่นเอง คนกลุ่มนี้จะเกิดก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จะยุติ
จึงเติบโตมาท่ามกลางสภาพบ้านเมืองที่มีทรัพยากรที่จำกัด ทำให้รู้จักคุณค่าของเงิน
มักมีคุณลักษณะที่มั่นคง เชื่อใจได้ สู้งานหนัก
ใช้จ่ายอย่างรู้คิดและภักดีต่อองค์กรสูง

กลุ่ม Baby Boom :
คนที่เกิดช่วงปี 2499 – 2507
หลังสงครามยุติ ประเทศเข้าสู่ความสงบ
การรณรงค์คุมกำเนิดยังไม่แพร่หลาย จึงเกิดพลเมืองตัวน้อยๆ ขึ้นมากมาย
Baby Boom เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงและแข่งขันกับคนวัยเดียวกันเพื่อให้ได้งาน
ยิ่งเมื่อประเทศกำลังพัฒนาเพื่อก้าวไปสู่ยุคความเป็นอุตสาหกรรม
Baby Boom ก็ยิ่งจำเป็นต้องทำ งานหนักมากขึ้น
เต็มเหยียดวันละ 8 ชั่วโมง 6 วันต่อสัปดาห์

ลูกจ้าง Baby Boom มักเคยชินต่อการพิสูจน์ตัวเอง เพื่อให้นายจ้างยอมรับในศักยภาพ
การจะก้าวไปสู่ตำแหน่ง ใหญ่นั้น ต้องใช้เวลาและแรงผลักดันอย่างสูง

กลุ่ม Generation–X : คนที่เกิดช่วงปี 2508 – 2523
Generation–X ลืมตาดูโลกในช่วงเวลาที่มนุษยชาติส่งยานอวกาศออกไปนอกโลก ได้สำเร็จ
ของเล่นสุดฮิตของเด็กรุ่นจึงไม่ใช่ม้าโยก หรือตุ๊กตาหมีอีกต่อไป
แต่เป็นวิดีโอเกม เกมกด และWalkman พวกเขาเติบโตมาใน ยุครอยต่อของ Analog กับ Digital
อยู่ท่ามกลางเทคโนโลยีที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ ทว่าที่สังคมเปลี่ยนแปลงในทางวัตถุนี้
กลับทำให้ สถาบันครอบครัวสั่นคลอน ความภักดีต่อองค์กรของคนรุ่นนี้จึง คลายลงมาก
นำมาสู่การลาออกและเปลี่ยนงานเป็นว่าเล่น
ไม่แปลกที่ชาว Baby Boom ผู้ไม่เคยเกี่ยงที่จะทำโอทีจนดึกดื่นจะอึ้ง
ที่ชาว Generation–X ปฏิเสธการทำงานล่วงเวลา
หรือลาออกไปหางานใหม่หน้าตาเฉยหากไม่พอใจ
ทั้งนี้เพราะ Generation–X เชื่อว่างานไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต


กลุ่ม Millennium : คนที่เกิดปี 2524 เป็นต้นมา
Millennium คือกลุ่มคนทำงานหน้าใหม่ไฟแรง แต่ยังอ่อนต่อประสบการณ์
บางคนอาจยังเรียนไม่จบเสียด้วยซ้ำ หรือบางคนมีแผนที่จะเรียนต่อ
ชาว Millennium โตมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ
รวมถึงระบบการศึกษาที่เริ่มให้ความสำคัญกับการคิดมากกว่าการท่องจำ
ชาว Millennium จะมีพ่อแม่ที่มีความรู้สูง จึงให้การสนับสนุนให้ Millennium
ได้เสริมทักษะด้านต่างๆ ตั้งแต่เด็ก ฉะนั้น Millennium จึงชอบแสดงออก
มีความเป็นตัวของตัวเองสูงและสนุกกับการทำงานเป็นทีมไม่ชอบอยู่ในกรอบ และไม่ชอบ เงื่อนไข
ในขณะนี้ ชาว Generation-X เปลี่ยนงานครั้งที่ 12 เพื่อ
เป็นผู้บริหารระดับสูงกินเงินเดือนเรือนแสน แต่ชาว Millennium จะลาออกไปเริ่มธุรกิจเล็กๆ ของตัวเอง


สลายช่องว่างสร้างความเข้าใจ เมื่อเข้าใจอย่างท่องแท้แล้วว่า
ใครมีค่านิยมในชีวิตอย่างไร ใคร ๆก็สามารถสร้างสะพานข้ามช่องว่าง เพื่อข้ามไปหากันได้

สูตรสร้างสะพานข้ามช่องว่าระหว่างวัยมีอยู่ 3 ขั้นตอน
1. เข้าใจถึงความแตกต่าง
ยอมรับว่าคนเราถูกหล่อหลอมมา ไม่เหมือนกัน คนที่มีความเชื่อหรือทัศนคติต่อชีวิตไม่เหมือนคุณ เขาไม่ใช่คนไม่ดีเสมอไป

2. ชื่นชมจุดดี
แทนที่จะต่อต้าน ให้เราลองมองหาจุดเด่นของคนในแต่ละกลุ่มให้พบ

3.บริหารความแตกต่าง
เปลี่ยนวิธีการสื่อสารให้เข้าถึงคนแต่ละกลุ่มที่เราต้องทำงานด้วย ทำงานกับกลุ่มลายคราม
จงให้เกียรติและให้ความเคารพอย่างสูงต่อพวกเขา
เมื่อคุณให้เกียรติผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็จะให้เกียรติคุณ แล้วถ้าบังเอิญคุณมีตำแหน่งสูงกว่าพวกเขา
จงแสดงความชื่นชมต่อเขาในด้านการเป็นเสาหลักขององค์การ และจงรับฟังเมื่อพวกเขา
ถ่ายทอดประสบการณ์ในอดีต การต่อสู้ ความพากเพียรในการทำงานจนผ่านพ้นความยากลำบากมาได้
เพราะสิ่งนั้นคือ สิ่งที่คนรุ่นหลังไม่มี และไม่รู้จัก อย่ามองว่า..กลุ่มลายครามคือ หมาล่าเนื้อ ไม่มีที่ไป
แต่การที่พวกเขาทำงานอยู่จนถึงวัย เกษียณนั้น เป็น เพราะพวกเขาเชื่อในคุณค่าของความมั่นคง
และถือความซื่อสัตย์เป็นที่สุด


ทำงานกับกลุ่ม Baby Boom จงแสดงความนับถือ รับฟัง และเรียนรู้จากประสบการณ์ของBaby Boom
แล้วพยายามปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ ไม่ว่าคุณจะเก่งกาจแค่ไหน
หรือคุณจะประสบความสำเร็จเพียงใจ คุณก็ยังต้องเรียนรู้อยู่เสมอ
อย่าแสดงออกว่าการทำงานหนัก คือ การถูกเอาเปรียบ เพราะ Baby Boom
ให้ความสำคัญต่อหลักการทำงาน ยึดถือวัฒนธรรมองค์การและเห็นคุณค่าต่อการทำงานอย่างทุ่มเท
หากต้องทำงานในองค์กรใหญ่ๆ ที่มีประวัติศาสตร์ ยาวนาน ซึ่งบริหารงานโดย Baby Boom
ควรพยายาม เรียนรู้ วัฒนธรรมองค์กรเสียก่อนว่ามีการเจริญเติบโตมาอย่างไร ก่อน
ที่จะเสนอความคิดริเริ่มเพื่อการเปลี่ยนแปลงใดๆ แก่ Baby Boom

ทำงานกับกลุ่ม Generation–X ต้องพูดให้กระชับ ชัดเจนและไม่อ้อมค้อม
เพราะGeneration–X ชอบความตรงไปตรงมา คุณสามารถใช้ Email กลับคนกลุ่มนี้ได้
หากคุณสามารถสื่อสารได้ใจความและตรงเป้าหมาย หากเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ ควรพูดต่อหน้า
เพราะ Generation–X ไม่ชอบถูกบงการ ผู้ใหญ่แค่ให้นโยบายกว้างๆ
เปิดโอกาสให้เขาได้แก้ปัญหาเองจะดีที่สุด

ส่วน Baby Boom ควรลดความคาดหวังต่อ Generation–X
ในการทำงานหนักอย่างหนักโดยไม่มีวันหยุดหรือก้าวไปอย่างช้า ๆอย่างรุ่นตน
เพราะGeneration–X ต้องการชีวิตที่สมดุล ไม่ชอบการอยู่ติดที่

ทำงานกับกลุ่ม Millennium
ลองท้าทายพวกเขาด้วยภารกิจใหม่ๆ Millennium จะชอบ
ความเป็นคนสำคัญการเพิ่มความรับผิดชอบเสมือนการให้คำชม จงเปิดโอกาสให้ Millennium
ได้แสดงความคิดเห็นของเขาเห็นพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งในทีม ผู้ใหญ่ที่ยอมรับความคิดเขา
ก็จะได้รับการยอมรับจากพวกเขาเช่นกัน Millennium
ชอบให้คุณแสดงออกต่อสิ่งที่พวกเขาทำทุกขณะจิต เพราะความรู้สึกและความคิดเห็นของเพื่อนร่วมงาน
มีผลต่อพวกเขามาก

แค่เข้าใจ..ทุกอย่างก็ลงตัว

No comments: