Friday, 22 August 2008
มีเหมือนจะตลก แต่จะสลดมาเล่าให้ฟังค่ะ
มีเหมือนจะตลก แต่จะสลดมาเล่าให้ฟังค่ะ
เมื่อวานนี้เวลาประมาณตีสามนิดๆ นุจโบกแท็กซี่จากหน้าปากซอย 88 เพื่อเดินทางกลับห้อง ยังไม่ทันได้ปิดประตู
รถสนิทเด้วยซ้ำ ก็ได้ยินเสียงบางสิ่งบางอย่างที่ดึงความสนใจของเรา จนทำให้เราต้องใช้สมาธิฟังมัน
เสียงนั้นมันมาจาก สวภ 91 เป็นเสียงโฆษกหญิงห้าวๆ กำลังโวยวายอยู่ “คุณค่ะคุณ คุณช่วยออกห่างๆภรรยาคุณ
หน่อยได้มั้ยค่ะ ” ในใจก็คิดตามว่ายัยโฆษกนี่เป็นอะไรว่ะ ทำไมไปบอกให้ผัวเมียเค้า
แยกออกจากกันฟังไปแล้วเรื่อยๆ ค่อยอ๋อ...ประมาณว่าเค้าฟังผู้ชายคนนี้พูดไม่ค่อยจะรู้เรื่อง เสียงที่นุจได้ยินคือเสียงผู้ชาย
คนนึงกำลังต้องการแจ้งเหตุบางอย่าง แต่มีภรรยาของเค้าพูดแทรกคลออยู่ตลอดเวลา ผู้ชายคนนั้นเค้าพยามยามจะบอกว่า
เด็กใส่เสื้อสีอะไร รูปพรรณสัณฐานเป็นอย่างไร ขณะที่ฟังอยู่สิ่งแรกที่นุจคิดคือลูกเค้าคงหนีออกจากบ้านมั้ง ในขณะที่
ความคิดยังคงก้องอยู่ในหัวไม่ทันได้หายไป ภรรยาของชายคนนั้นก็แย่งสายไปแล้วพูดจาด้วยน้ำเสียงเหมือนคนร้องไห้
สะอึกสะอื้นอยู่ (เสียงของเธอฟังดูอายุน้อยมาก) “พี่ค่ะหาลูกหนูให้หน่อยค่ะ ลูกหนูอ่ะค่ะพี่ ลูกหนู...เค้าใส่เสื้อสีส้ม กางเกงสี.......... (ตัดไปพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง)” ขณะที่นุจกำลังตั้งใจฟังอยู่นั้น เสียงคนขับแท็กซี่ก็เอ่ยแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแบบกำลัง
อมยิ้มว่า “ ผู้หญิงคนนี้เค้าลืมลูกไว้ในแท็กซี่น่ะ” ทันใดนั้น นุจก็ร้อง ฮ้า!! ด้วยความแปลกใจ (ในความคิดเป็นไปได้ไงวะลืมลูก)
จึงใคร่ถามต่ออีก แล้วจึงได้ใจความว่าผู้หญิงคนนี้เมามากจนถึงขั้นลืมลูกไว้บนรถแท็กซี่ ซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงอายุประมาณ 3 ขวบ
พอลงรถปุ๊บสามีมารับถึงได้รู้ว่าลืมลูกไว้ในรถ ตายล่ะ! แปลกใจมากว่าทำไมแท็กซี่ไม่ถอยรถกลับเอาเด็กมาคืน แล้วพ่อเด็กมา
รับไม่รู้รึไงว่าไม่เห็นลูกตัวเองจนรอให้แท็กซี่ไปแล้ว เอ....เด็กอาจจะหลับก็เป็นได้นะ....แต่..นี่มันนานแล้วนะ!...ทำไมยังไม่เอา
มาคืนล่ะ ส่วนตัวนุจนั้นอดคิดในแง่ร้ายไม่ได้ว่าไม่ได้ว่า “ยัยเนี่ยมันลืมลูกไว้ในรถแท็กซี่หรือว่าเมามากแล้วลืมเอาขึ้นรถมาด้วยกันแน่” ป่านนี้เด็กคนนั้นจะเป็นไงบ้างน้อ.........นี่ก็ราวๆ 16 ชัวโมงกว่าแล้ว ไม่รู้ว่าได้ลูกคืนกันหรือยัง.......แล้วถ้าไม่ได้
คืนมาหาพ่อแม่เด็กคนนั้นจะเป็นยังต่อไป
**เมื่อคืนเลยไม่รู้ว่าจะขำหรือจะสลดดีน่ะค่ะ เรื่องแบบนี้ก็มีนะบ้านเมืองเรา**
Nuj
เมื่อวานนี้เวลาประมาณตีสามนิดๆ นุจโบกแท็กซี่จากหน้าปากซอย 88 เพื่อเดินทางกลับห้อง ยังไม่ทันได้ปิดประตู
รถสนิทเด้วยซ้ำ ก็ได้ยินเสียงบางสิ่งบางอย่างที่ดึงความสนใจของเรา จนทำให้เราต้องใช้สมาธิฟังมัน
เสียงนั้นมันมาจาก สวภ 91 เป็นเสียงโฆษกหญิงห้าวๆ กำลังโวยวายอยู่ “คุณค่ะคุณ คุณช่วยออกห่างๆภรรยาคุณ
หน่อยได้มั้ยค่ะ ” ในใจก็คิดตามว่ายัยโฆษกนี่เป็นอะไรว่ะ ทำไมไปบอกให้ผัวเมียเค้า
แยกออกจากกันฟังไปแล้วเรื่อยๆ ค่อยอ๋อ...ประมาณว่าเค้าฟังผู้ชายคนนี้พูดไม่ค่อยจะรู้เรื่อง เสียงที่นุจได้ยินคือเสียงผู้ชาย
คนนึงกำลังต้องการแจ้งเหตุบางอย่าง แต่มีภรรยาของเค้าพูดแทรกคลออยู่ตลอดเวลา ผู้ชายคนนั้นเค้าพยามยามจะบอกว่า
เด็กใส่เสื้อสีอะไร รูปพรรณสัณฐานเป็นอย่างไร ขณะที่ฟังอยู่สิ่งแรกที่นุจคิดคือลูกเค้าคงหนีออกจากบ้านมั้ง ในขณะที่
ความคิดยังคงก้องอยู่ในหัวไม่ทันได้หายไป ภรรยาของชายคนนั้นก็แย่งสายไปแล้วพูดจาด้วยน้ำเสียงเหมือนคนร้องไห้
สะอึกสะอื้นอยู่ (เสียงของเธอฟังดูอายุน้อยมาก) “พี่ค่ะหาลูกหนูให้หน่อยค่ะ ลูกหนูอ่ะค่ะพี่ ลูกหนู...เค้าใส่เสื้อสีส้ม กางเกงสี.......... (ตัดไปพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง)” ขณะที่นุจกำลังตั้งใจฟังอยู่นั้น เสียงคนขับแท็กซี่ก็เอ่ยแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแบบกำลัง
อมยิ้มว่า “ ผู้หญิงคนนี้เค้าลืมลูกไว้ในแท็กซี่น่ะ” ทันใดนั้น นุจก็ร้อง ฮ้า!! ด้วยความแปลกใจ (ในความคิดเป็นไปได้ไงวะลืมลูก)
จึงใคร่ถามต่ออีก แล้วจึงได้ใจความว่าผู้หญิงคนนี้เมามากจนถึงขั้นลืมลูกไว้บนรถแท็กซี่ ซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงอายุประมาณ 3 ขวบ
พอลงรถปุ๊บสามีมารับถึงได้รู้ว่าลืมลูกไว้ในรถ ตายล่ะ! แปลกใจมากว่าทำไมแท็กซี่ไม่ถอยรถกลับเอาเด็กมาคืน แล้วพ่อเด็กมา
รับไม่รู้รึไงว่าไม่เห็นลูกตัวเองจนรอให้แท็กซี่ไปแล้ว เอ....เด็กอาจจะหลับก็เป็นได้นะ....แต่..นี่มันนานแล้วนะ!...ทำไมยังไม่เอา
มาคืนล่ะ ส่วนตัวนุจนั้นอดคิดในแง่ร้ายไม่ได้ว่าไม่ได้ว่า “ยัยเนี่ยมันลืมลูกไว้ในรถแท็กซี่หรือว่าเมามากแล้วลืมเอาขึ้นรถมาด้วยกันแน่” ป่านนี้เด็กคนนั้นจะเป็นไงบ้างน้อ.........นี่ก็ราวๆ 16 ชัวโมงกว่าแล้ว ไม่รู้ว่าได้ลูกคืนกันหรือยัง.......แล้วถ้าไม่ได้
คืนมาหาพ่อแม่เด็กคนนั้นจะเป็นยังต่อไป
**เมื่อคืนเลยไม่รู้ว่าจะขำหรือจะสลดดีน่ะค่ะ เรื่องแบบนี้ก็มีนะบ้านเมืองเรา**
Nuj
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment